ด้วยขณะนี้ พบว่ามีพนักงานนวดแผนไทยในรัฐซาราวัก ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากสำนักงานแรงงานในประเทศมาเลเซียเป็นจำนวนมาก คิดเป็นร้อยละ 47.16 ของจำนวนแรงงานไทย 53 คน ที่ได้รับการอนุมัติใบอนุญาตทำงานภาคบริการในรัฐซาราวัก ส่วนใหญ่พบปัญหา ดังนี้
1. นายจ้างใช้วิธีให้สายนายหน้าเถื่อนแนะนำแรงงานจากประเทศไทย โดยแจ้งไปยังสถานสอนนวดแผนไทย ซึ่งได้แรงงานที่พอมีความรู้เล็กน้อย บางรายซื้อใบประกาศมาทำงาน และเมื่อเดินทางมาทำงาน พบว่านายจ้างใช้สัญญาจ้างภาษาจีนและภาษาอังกฤษ เกิดความไม่เข้าใจกันในเรื่องข้อตกลง นอกจากนี้ นายจ้างยังหักค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าทำใบอนุญาตทำงาน และค่าดำเนินการอื่นๆ โดยการหักรายเดือนในอัตราที่สูงมาก มีการยึดหนังสือเดินทางของคนงาน รวมทั้งไม่อนุญาตให้คนงานออกไปนอกสถานที่ เนื่องจากความไม่ปลอดภัย และกลัวคนงานหลบหนี
2. สภาพการจ้างงานในรัฐซาราวัก มีลักษณะเป็นร้านนวดขนาดเล็ก อยู่ชั้นบนของตึกแถว ซึ่งมีการจัดแต่งง่าย ไม่พิถีพิถัน และมีการจ้างคนงานไทยรวมกับคนงานชาวฟิลิปปินส์ ไม่ระบุประเภทการนวดที่ชัดเจน บางแห่งมีบริการแฝง เนื่องจากมีการแข่งขันสูง มีการเปิดธุรกิจประเภทนี้จำนวนมาก ทำให้นายจ้างต้องจูงใจให้ลูกค้ามาใช้บริการ และค่อนข้างเอาใจลูกค้า ไม่ปกป้องลูกจ้างเมื่อเจอปัญหาลูกค้าลวนลาม ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวจีน และคนท้องถิ่นที่ยังมีทัศนคติที่ไม่ถูกต้องต่องานนวดแผนไทย บางรายมานวดโดยมีวัตถุประสงค์อื่นด้วย นายจ้างส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมเป็นมาเฟีย หรือเจ้าพ่อ ที่สามารถจ้างคนควบคุมลักษณะเป็นนักเลง และมีการแสดงออกให้เห็นว่าอยู่เหนือกฎหมาย เป็นต้น
3. หญิงไทยที่มาทำงานมักจะได้ข้อมูลว่ามาทำงานที่รัฐซาราวักจะมีรายได้สูง โดยรวมค่าบริการเสริมไปด้วย คนงานบางคนยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับการนวดแผนไทยที่แท้จริง จากการพูดคุย หลายคนเชื่อว่าการจับกระสัย เป็นการนวดไทยอย่างหนึ่ง และได้รับเงินบริการพิเศษแตกต่างจากการนวดไทย จึงมุ่งที่จะมาทำการจับกระสัยเพียงอย่างเดียว โดยที่ไม่ทำการนวดอย่างถูกต้อง จึงทำให้ชื่อเสียงของการนวดแผนไทยเสื่อมเสีย และทำให้ตำแหน่งพนักงานนวดแผนไทยถูกมองในทางเหยียดหยามไปด้วย ลูกจ้างที่อยู่ทำงานไม่ครบสัญญา แจ้งว่าไม่สามารถทำงานได้ต่อไป เนื่องจากมีรายได้น้อยกว่าที่คาดหวัง บางรายหลังจากถูกหักค่าใบอนุญาตทำงานแล้ว มีรายได้คงเหลือเพียง 500 – 700 ริงกิต ซึ่งถือเป็นจำนวนรายได้ที่น้อยมาก ไม่คุ้มกับการทำงานต่างประเทศ บางรายถูกนายจ้างคุมเข้ม ไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตส่วนตัวข้างนอกได้อย่างอิสระ ไม่อนุญาตให้ออกไปข้างนอก ทำให้เกิดความเครียด และหมดกำลังใจจะทำงาน ซ้ำร้าย นายจ้างบางรายไม่ทำใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้อง ทำให้คนงานต้องอยู่อย่างหลบซ่อน หวาดกลัว
สนร. มาเลเซียจึงขอเตือนให้คนหางานไทยทราบโดยทั่วกันว่า ด้วยสภาพพื้นที่ของรัฐซาราวักที่ค่อนข้างห่างไกล และยังไม่มีการพัฒนามากนัก การเดินทางค่อนข้างยากลำบาก การเข้าเมืองต้องแสดงเอกสารหนังสือเดินทางทุกครั้ง การเข้าถึงแรงงานไทยทำได้ยาก อีกทั้งกฎระเบียบในเรื่องการจ้างงานและกฎหมายแรงงาน จะยึดถือข้อตกลงในสัญญาจ้างที่นายจ้างและลูกจ้างลงนามตกลงกันเป็นหลัก
จากสภาพดังกล่าวข้างต้น ทำให้การเข้ามาทำงานของแรงงานไทยในตำแหน่งพนักงานนวดแผนไทย หมิ่นเหม่ต่อการตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ และต้องทำงานที่เสี่ยงต่อการถูกละเมิดทางเพศ รวมทั้งต้องอยู่ในสภาพการทำงานที่ไม่มีอิสระ ขาดอำนาจการต่อรอง และไม่ได้รับการคุ้มครองดูแลจากนายจ้างอย่างเหมาะสม ไม่คุ้มค่าต่อการออกมาทำงานต่างประเทศ ประกอบกับมีพื้นที่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ ทำให้หน่วยงานราชการไทยไม่สามารถเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด และไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันการณ์เมื่อประสบปัญหา นอกจากนี้ พบว่านายจ้างส่วนใหญ่มักไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา และมักเคยชินต่อการแก้ปัญหาโดยการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ หรือหนีปัญหา ปล่อยให้ลูกจ้างต้องโทษแต่เพียงผู้เดียว
สนร. มาเลเซียพิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันปัญหา จึงได้ขอให้กระทรวงแรงงานพิจารณาไม่อนุญาตแรงงานไทยเดินทางมาทำงานในตำแหน่งพนักงานนวดแผนไทยในรัฐซาราวัก ทั้งนี้ สนร. มาเลเซียจะได้มีหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐซาราวัก เพื่อแจ้งให้นายจ้างทราบต่อไป
หากมีข้อสงสัย ติดต่อสอบถามที่สนร. มาเลเซีย หมายเลข 03-21455868/21456004 หรือ e-mail:
thai_labour_office@yahoo.com