ตามที่ สำนักงานแรงงานในประเทศมาเลเซีย (สนร. มซ.) ได้ประชาสัมพันธ์ให้ทราบกรณีแรงงานไทยร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ จากการถูกนายอุสมาน บุญมาหล้า หรือนายสิงห์ นายหน้าสายเถื่อนหลอกลวงมาทำงานก่อสร้างในประเทศมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2555 จนถึงปัจจุบัน รวมจำนวนผู้ร้องทุกข์จำนวนกว่า 100 คน โดยสนร. มซ. ได้แจ้งรายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อดำเนินการโดยเด็ดขาดกับผู้กระทำความผิดทั้งหมด ทั้งในความผิดตามพรบ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน และ พรบ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ นั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 สนร. มซ. ได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ แจ้งว่านายอุสมาน บุญมาหล้า หรือนายสิงห์ถูกจับกุมแล้ว ที่ด่านพรมแดนบูเก๊ะตา อ. แว้ง จ. นราธิวาส โดยสำนักงานจัดหางานจังหวัดนราธิวาส ได้ประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสุไหงโก-ลก ในการตรวจสอบจับกุมผู้ต้องหา พร้อมหลักฐานของกลางเป็นหนังสือเดินทางของคนงานไทย จำนวน 38 ฉบับ โดยเป็นคนงานจากภาคอีสาน จำนวน 21 ราย ภาคเหนือ จำนวน 10 ราย ภาคกลาง จำนวน 3ราย และภาคตะวันออก จำนวน 4 ราย พร้อมสติกเกอร์ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งยังไม่ได้ติดในหนังสือเดินทางอีก จำนวน 9 ใบ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาดังกล่าวเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อดำเนินการสอบสวนตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก. ปคม.) เป็นผู้ดำเนินการต่อไป หลักฐานของกลางเป็นหนังสือเดินทางและสติกเกอร์ใบอนุญาตทำงาน จากที่มีการพบหลักฐานของกลางเป็นหนังสือเดินทางของแรงงานไทย จำนวน 38 ฉบับ พร้อมสติกเกอร์ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งยังไม่ได้ติดในหนังสือเดินทาง จำนวน 9 ใบ นั้น สนร. มซ. ได้ตรวจสอบพบว่าสติกเกอร์ใบอนุญาตทำงานดังกล่าวเป็นเอกสารปลอมแปลง เนื่องจากสติกเกอร์ใบอนุญาตทำงานจริง เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียจะเป็นผู้ติดลงในหนังสือเดินทาง ไม่มีนายจ้างหรือนายหน้ารายใดๆ มีสิทธิติดสติกเกอร์ใบอนุญาตทำงานเอง โดยเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา สนร. มซ. ได้รับการประสานจากแรงงานจังหวัดระยอง แจ้งว่ามีแรงงานไทย 3 คน ถูกทางการมาเลเซียจับกุมในข้อหาใช้ใบอนุญาตทำงานปลอม ซึ่งจากการสอบถามข้อมูล ทราบว่านายอุสมานฯ เป็นผู้ดำเนินการทำใบอนุญาตทำงานปลอมให้คนงาน ซึ่งขณะนี้ แรงงานไทยทั้ง 3 คน ยังถูกขังอยู่ในเรือนจำ รอขึ้นศาลและรับโทษตามกฎหมายของประเทศมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม สนร. มซ. ได้สอบถามไปยังคนงานเก่า พบว่ายังมีแรงงานไทยที่ตกเป็นเหยื่อของนายอุสมานฯ อีกหลายรายที่ยังคงทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซียโดยไม่มีหนังสือเดินทาง ไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือมีใบอนุญาตทำงานปลอม ซึ่งกฎหมายมาเลเซียกำหนดไว้ชัดเจนว่า ผู้ที่ครอบครองใบอนุญาตทำงานปลอม มีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร ไม่ว่าจะมีเจตนาหรือไม่ หากมีอยู่ในครอบครองก็ถือเป็นความผิดตามกฎหมายมาเลเซีย ซึ่งโดยทั่วไป หากรับสารภาพ ศาลจะพิจารณาลงโทษจำคุกประมาณ 5 – 6 เดือน และปรับประมาณ 120,000 – 150,000 บาท
นอกจากนี้ หากถูกจับกุมขณะทำงานหรืออยู่ในไซต์งาน จะถูกจับกุมในข้อหาทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน มีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ และอาจถูกโบยด้วย 6 ที และหากอยู่เกินกำหนด (Overstay) มีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ สำหรับแรงงานไทยที่เป็นเหยื่อของนายอุสมานฯ หรือนายสิงห์ และยังคงตกค้างอยู่ในประเทศมาเลเซียอีกจำนวนมากกว่า 60 คน นั้น สนร. มซ. ได้ประสานให้ความช่วยเหลือ เพื่อจะได้เดินทางกลับประเทศไทยอย่างถูกต้องปลอดภัยแล้ว สนร. มซ. จึงขอแนะนำผู้หางานไทยที่ประสงค์หรือได้รับการติดต่อให้มาทำงานในประเทศมาเลเซียในตำแหน่งใดก็ตาม ขอให้ติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ หรือกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี กรุงเทพมหานคร เพื่อลงทะเบียนแจ้งความประสงค์จะมาทำงานต่างประเทศ และสอบถามข้อเท็จจริงก่อน โดยสนร. มซ. สามารถให้ข้อมูล พร้อมทั้งตรวจสอบสถานภาพนายจ้าง สัญญาจ้างให้เป็นไปตามกฏหมาย และตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ สถานที่พักให้เหมาะสมก่อนได้ ทั้งนี้ เพื่อให้ท่านได้เป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฏหมาย ได้รับการจ้างงานที่ดี เหมาะสมและเป็นธรรม และได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์อย่างครบถ้วน หากมีข้อสงสัย ติดต่อสนร. มาเลเซียที่หมายเลข 03-21455868 หรือ 03-21456004 E-mail: thai_labour_office@yahoo.com หรือที่ facebook สำนักงานแรงงานในมาเลเซีย ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตลอด 24 ชม.