ประกาศ!!!
กรมแรงงานมาเลเซียได้มีหนังสือเวียนถึงสนร. มาเลเซีย ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556 แจ้งให้ทราบว่าเลขานุการคณะกรรมการค่าแรงแห่งชาติ ได้มีการแถลงข่าวเกี่ยวกับการประกาศกำหนดค่าแรงขั้นต่ำสำหรับบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง (SME) ดังนี้
ประกาศอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ค.ศ. 2012 กำหนดให้นายจ้าง ซึ่งจ้างแรงงานตั้งแต่ 6 คนขึ้นไป จ่ายค่าแรงขั้นต่ำ จำนวน 900 ริงกิต ให้กับแรงงานในคาบสมุทรมาเลเซีย และจำนวน 800 ริงกิต ให้กับแรงงานในรัฐซาบาห์ ซาราวัก และลาบวน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2013 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้รับผลสะท้อนกลับจากฝ่ายนายจ้าง โดยเฉพาะจากบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง ผู้ซึ่งไม่สามารถดำเนินการจ่ายค่าแรงขั้นต่ำตามประกาศอัตราค่าแรงขั้นต่ำได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงได้ตกลง ดังนี้
อนุญาตให้นายจ้าง ที่ยังไม่ดำเนินการจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ ยื่นขอเลื่อนเวลาจ่ายค่าแรง
ขั้นต่ำต่อเลขานุการคณะกรรมการค่าแรงแห่งชาติ ซึ่งการพิจารณาเพื่อขอเลื่อนเวลาฯ จะใช้ได้กับนายจ้างที่จ้างงานแรงงานต่างชาติ และอนุญาตให้ปรับโครงสร้างเงินเดือนของแรงงานต่างชาติได้ สำหรับแรงงานท้องถิ่น นายจ้างต้องจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2013 โดยนายจ้างที่ขอเลื่อนเวลาจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ จะไม่ได้รับอนุญาตให้หักค่า Levy และค่าที่พักอาศัยจากเงินเดือนของลูกจ้าง หรือ
สำหรับนายจ้างที่ดำเนินการจ่ายค่าแรงขั้นต่ำแล้ว แต่ประสบความยากลำบากในการจ่ายเงินเดือนแก่ลูกจ้าง รัฐบาลได้ยินยอมให้นายจ้างสามารถยื่นหนังสือเพื่อขออนุญาตหักเงินค่า Levy และค่าที่พักอาศัยกับกรมแรงงานมาเลเซีย แต่การขออนุญาตหักเงิน (ค่า Levy และค่าที่พักอาศัย) จะไม่สามารถนำมาใช้กับแรงงานในภาคประกอบการเพาะปลูก และนายจ้างที่ได้ดำเนินการจ่ายค่าแรงขั้นต่ำแล้ว ไม่อนุญาตให้ขอเลื่อนเวลาได้
ทั้งนี้ การดำเนินการตามประกาศค่าแรงขั้นต่ำ จะยังคงดำเนินการต่อไป ยกเว้นสำหรับนายจ้างที่ได้รับอนุมัติให้เลื่อนเวลาจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ
ดังนั้น แรงงานใหม่ทุกคนที่มาทำงานในมาเลเซียตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2013 เป็นต้นไป และแรงงานเก่าที่ต่อใบอนุญาตทำงาน อาจต้องถูกหักเงินค่า Levy และค่าที่พักอาศัย หากนายจ้างกำหนด