หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น The Star ประจำวันที่วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ได้เสนอข่าวผลการสำรวจการขึ้นเงินเดือนประจำปี ๒๐๑๑ ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งจัดทำโดย เดอะ โรเบิร์ต วอลเตอรส์ (The Robert Walters) บริษัทให้คำปรึกษาและจัดหาทรัพยากรบุคคลชั้นที่มีสาขากว่า ๒๐ สาขาทั่วโลก เปิดเผยว่า ในปี ๒๐๑๑ ตำแหน่งงานระดับผู้เชี่ยวชาญในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ธุรกิจการบัญชีและการเงิน การธนาคาร โลจิสติกส์ และการขาย มีการปรับอัตราเงินเดือนสูงขึ้นร้อยละ ๕ ถึง ๓๐ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (ไม่รวมเงินโบนัสและสวัสดิการอื่นๆ) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อและภาวะตลาด โดยคาดการณ์ว่าลูกจ้างที่มีประสบการณ์ทำงานตั้งแต่ ๕ ถึง ๑๐ ปี จะได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นเงินเดือนมากที่สุด
บริษัทในภาคธุรกิจต่างๆ ข้างต้น มีแนวโน้มที่จะแย่งชิงลูกจ้างที่มีประสบการณ์และมีความสามารถ โดยการเสนอเงินเดือนในอัตราสูงและสวัสดิการที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดคนหางาน ทั้งคนท้องถิ่นและคนต่างชาติที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าไปทำงานกับบริษัท จากผลการสำรวจพบว่า สาขาการธนาคารมีการปรับขึ้นเงินเดือนสูงสุด รองลงมาก็เป็นสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สาขาการบัญชีและการเงิน และสาขาการขายและการตลาด
สำนักงานแรงงานในประเทศมาเลเซียได้ทำการสำรวจอย่างไม่เป็นทางการ ประมาณการว่ามีคนไทยที่กำลังทำงานในสาขาดังกล่าวจำนวนหลายร้อยคน โดยเฉพาะในสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาไทยที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีข้อได้เปรียบในด้านภาษา (อังกฤษและบาฮาซามาเลเซีย) ทำให้เป็นที่ต้องการของภาคธุรกิจดังกล่าว จากการพบปะพูดคุยกับคนไทยที่ทำงานอยู่ ทราบว่าบางคนทำงานกับบริษัทเป็นเวลา ๓ ปีก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ได้ปรับเงินเดือนสูงขึ้น (ประมาณ ๓,๕๐๐ ริงกิต หรือ ๓๕,๐๐๐ บาท)
ดังนั้น สนร. มาเลเซียเห็นว่าการปรับขึ้นอัตราเงินเดือนจะดึงดูดให้คนไทยสนใจเข้าไปทำงานกับภาคธุรกิจดังกล่าวมากขึ้น รวมทั้งจะทำให้เกิดแรงจูงใจให้เยาวชนไทยสนใจไปศึกษาต่อในประเทศมาเลเซีย โดยหวังว่าเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว จะได้มีโอกาสเข้าไปทำงานในบริษัทที่มั่นคงและมีรายได้ดี