เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 67 มาเลเซียรับตำแหน่งประธานอาเซียนปี 2568 ต่อจากลาว โดยให้คำมั่นว่าจะสร้างกลุ่มภูมิภาคที่เชื่อมโยงและยั่งยืนมากขึ้นในระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง ทั้งนี้ มาเลเซียเลือกใช้คำขวัญว่า “ความเชื่อมโยงและความยั่งยืน – Inclusivity and Sustainability” เพื่อสะท้อนถึงความปรารถนาในการก้าวหน้าร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ดาโต๊ะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย กล่าวว่า อาเซียนเริ่มต้นขึ้นเมื่อเกือบหกทศวรรษก่อนภายใต้วิสัยทัศน์สันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรือง ปัจจุบัน กลุ่มอาเซียนมีความแข็งแกร่งและพร้อมที่จะก้าวไปสู่อนาคตด้วยความมั่นใจ และจะยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องในการเสริมสร้างความเข้มแข็งภายในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังพร้อมจะเดินหน้าสำรวจและขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจนอกพรมแดนต่อไป เหนือสิ่งอื่นใด อาเซียนจะยืนหยัดอย่างมั่นคงในการปกป้องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นภูมิภาคที่สงบสุข มั่นคง และเจริญรุ่งเรือง

นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2025 จะเป็นช่วงเวลาสำคัญของอาเซียน เนื่องจากอาเซียนจะครบรอบ 10 ปีของการก่อตั้งประชาคมอาเซียน และด้วยเหตุนี้ ประชาคมอาเซียนจะร่วมกันสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญใหม่ คือ การเปิดตัววิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนปี 2045 (Asean Community Vision 2045) เพื่อกำหนดทิศทางสำหรับอนาคตร่วมกันของอาเซียนในอีกสองทศวรรษข้างหน้า ทั้งนี้ มาเลเซียหวังที่จะเป็นผู้นำอาเซียนด้วยความมั่นใจ จะเสริมสร้างและขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมถึงการจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน – คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ + จีน (ASEAN GCC + China Summit) ในปี 2025

มาเลเซียจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2568 โดยครั้งสุดท้ายที่มาเลเซียดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนคือเมื่อปี 2558

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ; https://www.thestar.com.my/news/nation/2024/10/12/msia-vows-inclusivity-sustainability