เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2555 สำนักงานจัดหางานจังหวัดยะลา ได้จัดอบรมโครงการเครือข่ายชุมชนร่วมรณรงค์ป้องกันการหลอกลวงและลักลอบไปทำงานต่างประเทศ รุ่น 1 ณ วิทยาลัยการอาชีพเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ในการนี้ สำนักงานฯ ได้เชิญนางสาวภัทรพร สมันตรัฐ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ร่วมบรรยาย เรื่อง “การขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในประเทศมาเลเซีย” เพื่อเป็นการให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรมด้วย

                    การฝึกอบรมโครงการเครือข่ายชุมชนฯ จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งได้แก่ ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ที่อยู่ในเขตพื้นที่รอบนอกของอำเภอเบตง ซึ่งมีชายแดนเชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย ได้มีความรู้ในการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้อง สามารถนำไปปฏิบัติหรือให้คำแนะนำแก่บุคคลอื่นได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างเครือข่ายร่วมรณรงค์ป้องกันการหลอกลวงและลักลอบไปทำงานต่างประเทศเพิ่มขึ้น

                    ในการบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการอบรมครั้งนี้ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ได้บรรยายถึงความเป็นมาของการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ขั้นตอนต่างๆ ของการดำเนินแผนการนิรโทษกรรม ความรู้เกี่ยวกับงานด้านการกงสุล ตลอดจนสภาพปัญหาและผลของการเข้าไปทำงานอย่างไม่ถูกต้อง รวมทั้งการตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ และบทบาทหน้าที่ของสถานทูตไทยในการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยาก ในขณะที่นายอรุณ ช่วยนุกูล หัวหน้าด่านตรวจคนหางานเบตง ได้บรรยายถึงวิธีการเดินทางเข้าไปทำงานในต่างประเทศอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการขอรับใบเบิกทางผ่านแดน ณ ที่ว่าการอำเภอ การตรวจลงตรา ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งแนะนำวิธีการกรอกแบบ ต.ม. 6 ของทั้งฝั่งไทยและมาเลเซีย ซึ่งในความเป็นจริง การกรอกแบบ ต.ม. 6 ไม่ได้มีความยุ่งยากแต่ประการใด แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังนิยมจ้างให้คนอื่นกรอกแบบฯ ให้ ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ พร้อมทั้งการฝึกปฏิบัติจริง นอกจากนี้ ยังสอนให้สังเกตตราประทับของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และประเภทของวีซ่าต่างๆ ด้วย

                    การจัดการฝึกอบรมโครงการเครือข่ายชุมชนฯ นับว่าเป็นโครงการที่ดี และควรจัดให้เป็นโครงการต่อเนื่อง และจริงจัง เนื่องจากมีแรงงานไทยลักลอบเข้ามาทำงานในมาเลเซียอย่างผิดกฎหมาย ถูกทางการมาเลเซียจับกุมเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง การประชาสัมพันธ์ให้คนหางานได้ตระหนักถึงปัญหาและโทษจากการเข้ามาลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย ถือเป็นวิธีการป้องกันแต่ต้นทางวิธีหนึ่ง ควรส่งเสริมให้มีการจัดอบรมโครงการเครือข่ายฯ กระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาสาสมัครแรงงานในพื้นที่ ได้รับความรู้เกี่ยวกับการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อจะได้มีความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบัติจริง รวมทั้งสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้อื่นได้อีกด้วย

                    หากหน่วยงานใดสนใจข้อมูลเกี่ยวกับงานด้านการกงสุล และรายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินแผนการนิรโทษกรรมแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายในประเทศมาเลเซีย ติดต่อสนร. มาเลเซีย หมายเลข 03-21455868/21456004