แรงงานไทย เป็นแรงงานที่ได้รับการยอมรับในทักษะความสามารถอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นความสามารถทางการก่อสร้าง การเป็นผู้ประกอบอาหาร ช่างฝีมือต่างๆ หรือแม้แต่วงดนตรีไทย

                    เมื่อเร็วๆ นี้ สนร. มาเลเซียได้รับการร้องทุกข์จากนักร้อง นักดนตรี จากวงดนตรีวงหนึ่ง แจ้งว่าได้รับการติดต่อจากเอเย่นต์ให้มาทำงานที่ร้าน Fahrenheit ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยก่อนมา เอเย่นต์แจ้งว่าจะทำใบอนุญาตทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ แต่ปรากฎว่านายจ้างไม่ได้ดำเนินการทำใบอนุญาตทำงานในเวลาที่กำหนด แรงงานจึงเกิดความกลัวว่านายจ้างจะไม่ทำใบอนุญาตทำงาน และกลัวว่าจะอยู่เกินกำหนด (Overstay) อีกทั้งยังกลัวว่าจะถูกทางการจับกุม จึงตัดสินใจจะเดินทางกลับประเทศไทย

                    สนร. มาเลเซีย และฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มักจะได้รับเรื่องร้องทุกข์ของแรงงานไทยในตำแหน่ง นักร้อง นักดนตรีไทย เป็นประจำ ส่วนใหญ่จะติดต่อให้ช่วยเหลือกรณีถูกนายจ้างยึดหนังสือเดินทาง กรณีอยู่เกินกำหนด เนื่องจากนายจ้างไม่ดำเนินการทำใบอนุญาตทำงาน รวมทั้งนายจ้างไม่จ่ายเงินให้ตามที่ตกลงกัน

                   สำหรับผู้ที่สนใจมาทำงานในตำแหน่ง นักร้อง นักดนตรี ในประเทศมาเลเซีย สามารถทำได้  โดยมี    ขั้นตอน ดังนี้

                    1. นายจ้างจะต้องติดต่อหน่วยงาน Central Agency for Application for Filming & Performance by Foreign Artist (PUSPAL) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสารสนเทศ การสื่อสาร และวัฒนธรรม (Ministry of Information Communication and Culture) เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ้างงานตำแหน่งนักร้อง นักดนตรี ซึ่งถือเป็นตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีทักษะเฉพาะด้าน

                    2. หน่วยงาน PUSPAL จะนำคำร้องขอของนายจ้างเข้าที่ประชุม เพื่อพิจารณา ใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 1 สัปดาห์ และสำหรับบริษัทนายจ้างที่ยื่นขอจ้างแรงงานต่างชาติเป็นครั้งแรก จะขยายเวลาการพิจารณาเพิ่มอีกประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ PUSPAL ไปตรวจสอบสถานที่

                    3. หลังจากที่ได้รับการอนุมัติจาก PUSPAL นายจ้างจะต้องไปจ่ายค่าธรรมเนียมที่หน่วยงาน PUSPAL ซึ่งสำหรับตำแหน่งนักร้อง นักดนตรี จะต้องเสียค่าธรรมเนียม รายละ 500 ริงกิต

                    4. เมื่อเสียค่าธรรมเนียมแล้ว นายจ้างสามารถไปยื่นขอ Calling Visa ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซียให้แรงงาน จากนั้นส่ง Calling Visa ให้แรงงาน เพื่อไปขอวีซ่า 3 เดือน (Single Entry Visa) ที่สถานทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย และเมื่อแรงงานเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียแล้ว นายจ้างจึงดำเนินการติดสติกเกอร์ใบอนุญาตทำงานประเภท Visit Pass (Professional) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย เสียค่าสติกเกอร์ใบอนุญาตฯ รายละ 90 ริงกิต ซึ่งใบอนุญาตทำงานประเภทนี้ จะมีอายุ 3 เดือน แต่สามารถยื่นขอต่ออายุได้

                    อย่างไรก็ตาม นายจ้างส่วนใหญ่มักจะให้แรงงานเดินทางเข้าประเทศมาเลเซียด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวก่อน แล้วจึงไปดำเนินการขอใบอนุญาตฯ ภายหลัง โดยเฉพาะนายจ้างที่มีประวัติเคยยื่นขอจ้างแรงงานกับหน่วยงาน PUSPAL มาแล้ว เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการพิจารณาเพียง 1 สัปดาห์ เพราะไม่มีขั้นตอนของการตรวจสอบสถานที่ และนายจ้างมักจะหลีกเลี่ยงขั้นตอนการยื่นขอ Calling Visa เพื่อประหยัดเวลา โดยยอมเสียค่าปรับจำนวน รายละ 500 ริงกิต แทนเอกสาร Calling Visa

                    สนร. มาเลเซียจึงขอประชาสัมพันธ์เตือนแรงงานไทยทุกคนว่า แม้ว่านายจ้างบางรายจะสามารถทำใบอนุญาตทำงานประเภท Visit Pass (Professional) ให้แรงงานในเวลาเพียง 1-2 สัปดาห์ แต่ความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครสามารถคาดเดาอนาคตได้ ดังนั้น จึงพบว่านายจ้างหลายรายไม่สามารถทำใบอนุญาตฯ ตามเวลาที่ตกลงกับแรงงาน ทำให้แรงงานประสบปัญหาการอยู่เกินกำหนด อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่อการถูกจับกุมในข้อหาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย

                    เพื่อความปลอดภัยของแรงงานไทย สนร. มาเลเซียขอให้แรงงานไทยที่ได้รับการติดต่อจากนายจ้างในประเทศมาเลเซีย เพื่อมาทำงานในตำแหน่ง นักร้อง นักดนตรี หรือตำแหน่งใดๆ ก็ตาม แจ้งให้นายจ้างมาติดต่อสนร. มาเลเซียเพื่อรับรองสัญญาจ้างก่อนเดินทางมาทำงานทุกครั้ง เพื่อจะได้มั่นใจว่ามีการจ้างงานที่ถูกต้อง และมีข้อตกลงที่เป็นธรรมต่อแรงงาน

                    หากมีข้อสงสัย ติดต่อสอบถามที่สนร. มาเลเซีย หมายเลข 03-21455868/21456004

                                                               **********************