เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2555 สำนักงานแรงงานในประเทศมาเลเซียได้รับแจ้งจากอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝายกงสุล) แจ้งว่าได้รับการร้องทุกข์ทางโทรศัพท์จากแรงงานไทย แจ้งว่าตนและพวกจำนวน 15 คนถูกหลอกลวงมาทำงานในประเทศมาเลเซียตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. 2555 โดยพักอยู่บริเวณเขตราวัง ใกล้กรุงกัวลาลัมเปอร์ จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ทำงานตามที่มีการตกลงกัน และมีความประสงค์ขอให้สถานทูตให้ความช่วยเหลือส่งกลับประเทศไทย
อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ได้เดินทางไปพบคนหางานที่บ้านพักชั่วคราวในเขตราวัง และจากการสอบถามข้อมูลกับผู้ร้องทุกข์ ทราบว่าผู้ร้องทุกข์ได้รับการติดต่อให้มาทำงานกับบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ของไทยในมาเลเซีย โดยมีนายทวี ไม่ทราบนามสกุล ผู้แทนจากบริษัทจัดหางานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายในจังหวัดระยอง เป็นผู้ชักชวน อ้างว่าบริษัทก่อสร้างดังกล่าวมีการประกาศรับสมัครแรงงานในตำแหน่งช่างประกอบ (Fitter A) จำนวนมาก อัตราค่าจ้างชั่วโมงละ 120 บาท ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง ทำงานนอกเวลาค่าจ้าง 1.5 เท่าของเวลาปกติ นายจ้างจัดที่พักให้ ผู้ร้องทุกข์เห็นว่าบริษัทที่ได้รับการกล่าวอ้างเป็นบริษัทที่เป็นที่รู้จัก และข้อเสนองานมีความน่าสนใจ จึงตัดสินใจที่จะมาทำงานด้วย ผู้แทนคนดังกล่าวจึงได้พาไปทดสอบความรู้ความสามารถและสอบสัมภาษณ์ที่บริษัทที่กล่าวอ้างใน จ. ชลบุรี เมื่อมีการสอบเสร็จแล้วได้แจ้งให้ผู้ร้องทุกข์เตรียมตัวเดินทาง โดยนัดวันเดินทางและสถานที่ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เมื่อถึงวันนัด ผู้แทนฯ ได้เรียกเก็บเงินจากผู้ร้องทุกข์คนละ 12,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการข้ามประเทศ แต่ไม่ออกใบเสร็จรับเงินให้ จากนั้นแจ้งว่าจะมีผู้แทนจากบริษัทในมาเลเซียชื่อนาย สิงห์ ไม่ทราบนามสกุล มารับตัวต่อจากด่านสุไหงโกลกเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองกวนตัน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งนายสิงห์ได้เดินทางมารับตามนัดหมายและได้เรียกเก็บเงินเป็นค่าดำเนินการอีกคนละ 14,000 บาท
ผู้ร้องทุกข์ได้เดินทางเข้ามาทางด่านราตาปันยัง เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2555 โดยวีซ่าประเภทท่องเที่ยว ซึ่งระหว่างรองาน นายสิงห์ได้ติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้อยู่รองาน แต่ต่อมาได้แจ้งว่าบริษัทดังกล่าวในมาเลเซียไม่จ้างให้ทำงานแล้ว แต่จะหางานให้ผู้ร้องทุกข์ทำงานกับบริษัทอื่น
สนร. มาเลเซียได้ติดต่อนายสิงห์ให้มาพบเพื่อเจรจาและสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งนายสิงห์ได้เดินทางมาพบ จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า นอกจากนายสิงห์ทำงานในตำแหน่ง Supervisor ให้บริษัทแห่งหนึ่งแล้ว ยังมีหน้าที่แนะนำคนไทยมาทำงานในประเทศมาเลเซีย จากการชี้แจง พรบ. จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 นายสิงห์ได้คืนเงินให้ผู้ร้องทุกข์ก่อนคนละ 7,000 บาท และรับปากว่าจะไปติดต่อคืนเงินส่วนที่เหลือที่สนร. มาเลเซีย สนร. มาเลเซียจึงได้ให้ความช่วยเหลือนำผู้ร้องทุกข์ทั้งหมดมาพักเป็นการชั่วคราวในที่พักฉุกเฉินของสถานทูต และอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2555
ในการนี้ สนร. มาเลเซียขอประชาสัมพันธ์เตือนคนหางานไทยที่ประสงค์จะไปทำงานในประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะแรงงานก่อสร้างได้รับทราบว่า งานประเภทก่อสร้างในระดับตำแหน่งแรงงานทั่วไปหรือแรงงานกึ่งฝีมือ มีอัตราค่าจ้างค่อนข้างต่ำ มีลักษณะการทำงานที่หนัก ยากลำบาก และเสี่ยงอันตราย ไม่คุ้มค่ากับการเดินทางมาทำงาน อีกทั้งไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ จากการทำงาน ดังนั้น ให้ระมัดระวังการเสนองานจากนายหน้าเถื่อน หากคนหางานคนใดได้รับการเสนองานให้ไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือติดต่อสำนักงานแรงงานในประเทศมาเลเซียเพื่อให้ตรวจสอบความมีอยู่จริงของตำแหน่งงานก่อน นอกจากนี้ ควรมีการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนที่จะมีการจ่ายเงิน และต้องมีหลักฐานการจ่ายเงิน มิเช่นนั้น คนหางานจะต้องเผชิญชะตากรรมเหมือนผู้ร้องทุกข์ตามข้างต้น นอกจากจะถูกนายหน้าเถื่อนหลอกมาลอยแพแล้ว ยังต้องเป็นหนี้เป็นสิน เพราะไปกู้เงินเพื่อจ่ายค่าดำเนินการให้นายหน้าเถื่อนอีกด้วย
หากมีข้อสงสัย สอบถามข้อมูลได้ที่สนร. มาเลเซีย หมายเลข 03-21455868/21456004 หรือเข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติมจาก face book สำนักงานแรงงานในประเทศมาเลเซีย
——————————————–