จากที่รัฐบาลมาเลเซียได้ดำเนินแผนการนิรโทษกรรมแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย (แผนการ 6P) โดยเปิดโอกาสให้แรงงานต่างชาติผิดกฎหมายลงทะเบียนเพื่อรับการนิรโทษกรรมและเดินทางกลับประเทศต้นทาง หรือขอทำงานอย่างถูกต้อง โดยทางการมาเลเซียได้มีการจัดสรรตำแหน่งงานใน 5 ภาคประกอบการ ได้แก่ ภาคการเกษตร การเพาะปลูก โรงงานอุตสาหกรรม การก่อสร้าง และภาคประกอบการ (เฉพาะตำแหน่งผู้ประกอบอาหาร แรงงานในบ้านพักตากอากาศหรือรีสอร์ท เท่านั้น) แต่ไม่พิจารณาตำแหน่งพนักงานนวด ทำให้กิจการร้านนวด โดยเฉพาะร้านนวดทีไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่ได้รับการจัดระดับ ต้องดิ้นรนหาทางออกเพื่อพยุงกิจการของตน ขบวนการหลอกลวงหลากหลายวิธีจึงถูกนำมาใช้ ซึ่งหนึ่งในขบวนการดังกล่าว คือ การหลอกลวงพนักงานนวดหญิงไทยให้จดทะเบียนสมรสอำพรางกับชายชาวมาเลเซีย เพื่อใช้สิทธิของการเป็นคู่สมรสชาวมาเลเซียขอใบอนุญาตทำงาน
อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายกงสุล) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ แจ้งว่า จากการสัมภาษณ์หญิงไทยที่ตกเป็นเหยื่อขบวนการดังกล่าว ทราบว่าได้เดินทางเข้ามาทำงานโดยได้รับการชักชวนจากหญิงไทยที่มีสามีเป็นชาวมาเลเซีย เปิดกิจการร้านนวดแผนโบราณอยู่ในย่าน Selayang และ Kepong รัฐสลังงอร์ โดยการจูงใจว่ามีรายได้ดี เดือนละ ๒๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป หญิงคนดังกล่าวได้พาเดินทางเข้ามาเลเซียทางรถยนต์ ผ่านชายแดนอำเภอสะเดา โดยไม่ได้จ่ายค่าดำเนินการใดๆ แต่หากทำรายได้ในภายหลังจึงจะหักค่าดำเนินการใช้คืนนายจ้าง
สนร. มาเลเซียขอประชาสัมพันธ์ว่า ขบวนการหลอกลวงพนักงานนวดหญิงไทยจดทะเบียนสมรสอำพรางกับชายชาวมาเลเซียเพื่อขอใบอนุญาตทำงาน ถือเป็นภัยร้ายแรงอย่างยิ่งสำหรับแรงงานหญิงไทย โดยเฉพาะผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากภายหลังการสมรสแล้ว จะประสบปัญหามากมาย เช่น ถูกนายจ้างหักค่าใช้จ่ายในการจ้างชายชาวมาเลเซียทุกเดือน และเนื่องจากมีความพัวพันกันทางกฎหมาย จึงเป็นการยากที่จะยกเลิกการแต่งงาน เพราะสามีในนามอาจไม่ยอมให้มีการหย่าร้างเกิดขึ้น หรือเรียกร้องเงินเพิ่มเติมจากที่ได้ตกลงกัน เพื่อแลกกับใบหย่าและอิสรภาพ อาจถึงขั้นจ้างทนายเพื่อฟ้องหย่า ซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก พร้อมนี้ ขอเน้นย้ำว่ารัฐบาลมาเลเซียยังไม่มีการพิจารณาอนุมัติตำแหน่งพนักงานนวดแผนไทยให้เข้ามาทำงานแต่อย่างใด ผู้ใดลักลอบเข้ามาทำงาน หากถูกทางการจับกุม จะต้องโทษปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ ริงกิต หรือจำคุกไม่เกิน ๕ ปี รวมทั้งนายจ้างจะถูกลงโทษตามพระราชบัญญัติต่อต้านการค้ามนุษย์ ปี ๒๐๐๗ (Anti-Trafficking in Persons Act 2007) ซึ่งแรงงานผิดกฎหมายจะถูกกันตัวไว้เป็นพยานในสถานสงเคราะห์ (Shelter) ที่ทางการจัดให้เป็นเวลาหลายเดือนอีกด้วย
มีปัญหาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ สนร. มาเลเซีย หมายเลข 03-21455868/21456004 หรือฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ หมายเลข 03-21432125/21432127