สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “ไทย-มาเลเซีย : พันธมิตรความร่วมมือด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ” เพื่อติดตามผลการหารือของผู้นำและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในระหว่างวันที่ ๒๔-๒๕ มีนาคม ๒๕๕๔ โดยได้เชิญศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ. บต.) นำโดยนายประมุข ลมุล รองเลขาธิการ ศอ. บต.คณะผู้ว่าราชการและรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลาและสตูล สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กองทัพภาคที่ ๔ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจ จชต. (ศชต.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยประสานงานตำรวจไทย-มาเลเซียรัฐกลันตัน รัฐตรังกานู และปีนัง เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการสถานเอกอัครราชทูตฯ และกงสุลใหญ่เมืองโกตาบารู และปีนัง รวมจำนวนผู้เข้าประชุมทั้งสิ้น ๕๐ คน
เอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ (นายธนะ ดวงรัตน์) เป็นประธานการประชุม โดยมีการหารือกันในด้านต่างๆ ดังนี้
๑ มิติด้านการเมืองและความมั่นคง ที่ประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็นและปัญหาอุปสรรค ตลอดจนข้อเสนอแนะแนวทางการดำเนินงาน เกี่ยวกับ
(๑) นโยบายและภาพรวมความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
(๒) ปัญหาความไม่สงบใน จชต. : สถานการณ์ในพื้นที่ และ
(๓) บทบาทของไทยและการดำเนินการในเวทีระหว่างประเทศ
๒ มิติด้านเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมการ สอท. โดยผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ข้อมูลกับที่ประชุมในเรื่องต่างๆ ดังนี้
(๑) นโยบายและความร่วมมือสำคัญทางเศรษฐกิจ
(๒) ยุทธศาสตร์ ๕-๕-๕ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความร่วมมือของไทยใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับมาเลเซียใน ๕ รัฐชายแดนไทย ใน ๕ ด้าน
(๓) การคุ้มครองคนไทย : ปัญหาผู้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์
(๔) ข้อมูลด้านแรงงานในประเทศมาเลเซีย และสถานการณ์แรงงานไทยในปัจจุบัน
จากนั้น ที่ประชุมได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็น
สำนักงานแรงงานในประเทศมาเลเซียได้นำเสนอข้อมูลด้านแรงงานต่างชาติในประเทศมาเลเซีย สถานการณ์แรงงานไทยในสาขาอาชีพต่างๆ ข้อมูลการระงับใบอนุญาตทำงานในสาขาพนักงานนวด ขบวนการปลอมแปลงใบอนุญาตทำงาน ตลอดจนแนวโน้มความต้องการและการขึ้นค่าจ้างแก่คนงานระดับปริญญาตรีในสาขาอิเลคทรอนิกส์ และบริการ เพื่อให้ที่ประชุมรับทราบรวมทั้งได้ขอความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลดังกล่าวให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย ที่ประชุมเห็นพ้องกันว่า คนงานไทยควรได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องตั้งแต่ต้นทางก่อนที่จะเดินทางเข้ามาทำงานในมาเลเซีย ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แก่คนงานเองและเป็นการลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการถูกหลอกลวงในประเด็นเงื่อนไขสัญญาการจ้างงานต่างๆ ด้วย